แม้ไม่มีข้อมูลเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ถึงการสร้างและความเป็นมา..แต่หลักฐานวัตถุที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษคนรุ่นก่อน มาสู่รุ่นลูกหลาน รวมถึงความงดงามแปลกตาทำให้เกิดความสนใจในพระสายนี้ ผู้ที่นำไปบูชาได้รับประสบการณ์ บางคนได้รับรู้ รับสัมผัสด้วยตนเองจึงเกิดความเชื่อความศรัทธา จาก..คนกลุ่มหนึ่ง ก็ได้ขยายวงกว้างขึ้นๆ... ผู้ที่ศรัทธาเชื่อว่ามีการสร้างมาตั้งแต่ยุคสมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) และคงมีการสร้างต่อมาอีกหลายวาระ หลายยุคสมัย
พระสายวังชุดที่นำลงมาให้ชมนี้ จะรวบรวมพระที่มีวรรณะหลายสีในองค์เดียวกันที่เรียกว่า..พระสมเด็จเบญจรงค์บ้าง พระสมเด็จปัญจสิริบ้าง บางท่านเรียกสมเด็จสายรุ้ง รวมไปถึงที่เรียกกันว่าสมเด็จวัดพระแก้ว
ส่วนแบบพิมพ์พระ น่าจะมีออกแบบทั้งจากฝีมือช่างหลวง ช่างสิบหมู่ (จากความงดงาม ประณีตได้สัดส่วนในพิมพ์ทรง มีทั้งอุปเท่ห์ความหมาย และออกแบบตามคตินิยมความเชื่อ) และช่างราษฏร์ ที่แสดงรูปแบบพิมพ์ออกมาอย่างมีศิลปะให้เห็นถึงแนวความคิด วิถีชีวิตในสมัยนั้น
แบบแม่พิมพ์เดิมก็คงได้นำมาใช้สร้างในวาระอื่นต่อๆมาด้วยเช่นกัน โดยมีความแตกต่างกันที่เนื้อหามวลสารและความเป็นธรรมชาติ พระที่ทำมาใหม่ตามท้องตลาด ก็คงใช้การถอดแบบถอดพิมพ์มาจากพระรุ่นเก่า หรือการทำพิมพ์ใหม่ให้ลักษณะดูคล้ายคลึง ผู้มองผ่านๆตาก็คงไม่เห็นความแตกต่าง แต่ถ้าผู้ที่ได้เห็นของจริงจนชำนาญแล้วจะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันอยู่มาก (ที่เห็นดาษดื่นในสนามพระ หากไม่เคยสัมผัสของจริงว่าเป็นเช่นไรอาจแยกแยะความแตกต่างได้ยาก)
พระสมเด็จปัญจสิริ หรือพระสมเด็จเบญจรงค์
ด้านหลังประทับตราครุฑพ่าห์ |
พระสมเด็จปัญจสิริ(เบญจรงค์) |
-พระพุทธพิชิตช้างนาฬาคิริง(พระพุทธ ช้างหมอบ)
-พิมพ์พระปิดตาสี่กรโลกอุดร
-พระพิมพ์แหวกม่าน
-พิมพ์พระโบราณ(ซุ้มกอ)
-พิมพ์เศียรบาตร
-พิมพ์ครุฑพ่าห์ สร้อยบุปผามาลา
-พิมพ์ใหย๋พระประธาน โรยผงแร่
-พิมพ์ปรกโพธิ์
-พิมพ์พระเกจิอาจารย์ (หลวงปาน วัดคลองด่าน)
-พระพิมพ์รูปเหมือนสมเด็จโต ข้างฉัตร โรยผงตะไบทอง
-พิมพ์ยอดขุนพล(ขาสิงห์) หลังประทับตราจักร
-พิมพ์พระสมเด็จมีเส้นอาสนะ หลังประทับตราครุฑพ่าห์
-พิมพ์ใหญ่พระประธาน
-พิมพ์ฉัตร
-พิมพ์พระพุทธนั่งช้างเอราวัณ